ข้อควรระวังในการเลือกใช้ไม้เทียม

ปัญหาราคาของไม้ค่อนข้างสูงและมีคุณภาพค่อนข้างไม่ดี เนื่องจากเป็นไม้ใหม่ที่มีอายุไม่มาก หรือนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นไม้ชนิดโตเร็ว ทำให้มีปัญหาหดตัวสูง และไม่ทนต่อสภาพอากาศในบ้านเรา ทำให้มีการผลิตวัสดุเพื่อทดแทนไม้ ซึ่งเรามักเรียกกันว่า ไม้เทียม

ไม้เทียมดังกล่าวหากแยกตามวัสดุที่ใช้ผลิต สามารถแบ่งออกเป็นได้ 2 ชนิด คือ

1. ไฟเบอร์ซีเมนต์ ผลิตจากการนำไฟเบอร์ธรรมชาติมาผสมกับซีเมนต์ ทำให้เกิดวัสดุที่มีลักษณะคล้ายกับไม้
2. Wood Plastic ผลิตขึ้นจากเศษไม้และผงพลาสติก ผ่านขบวนการผลิต ขึ้นรูปโดยการฉีด หรือรีดเป็นรูปร่างตามที่ต้องการ

ข้อดีของไม้เทียม มีดังนี้

1.ปลวกไม่กิน และไม่ติดไฟ
2.ทนต่อสภาพอากาศในบ้านเรา
3.สามารถเลื่อย ตัด เจาะ ใส ได้ง่ายเหมือนไม้ธรรมชาติ
4.ราคาต่ำกว่าไม้จริง
จากเหตุผลข้างต้น ทำให้ความนิยมในการใช้ไม้เทียมมากขึ้น โดยเริ่มจากการนำมาใช้เป็นผนัง, เชิงชาย, บัวพื้น ซึ่งเป็นวัสดุตบแต่ง และภายหลังเมื่อนิยมใช้มากขึ้น จึงมีการพัฒนาเป็นวัสดุทดแทนไม้จริงเพิ่มขึ้น โดยเริ่มจากพื้นกระดาน, ตงไม้ และคานไม้ ซึ่งปกติผู้ผลิตมักจะมีการระบุหรือกำหนดวิธีการใช้วัสดุดังกล่าว ซึ่งมักจะมีความสามารถในการรับแรงน้อยกว่าไม้จริง แต่ผู้ใช้งานทั้งเจ้าของบ้าน รวมถึงสถาปนิกและวิศวกรมักเข้าใจว่าไม้เทียมดังกล่าวมีคุณสมบัติดังเช่นไม้จริง และมักยึดติดกับตัวเลขสัดส่วนของโครงสร้างตามไม้จริง ซึ่งนำมาสู่ปัญหาในการใช้งานค่อนข้างมาก โดยเฉพาะไม้กระดานเทียม ซึ่งมีผู้นำไปใช้เป็นไม้ในส่วนระเบียงบ้าน โดยวางไม้กระดานเทียมบนตงที่มีระยะ 0.40 ม. ซึ่งเป็นระยะปกติสำหรับวางพื้นไม้ แต่สำหรับไม้กระดานเทียมนั้น ตามข้อกำหนดระยะตงอยู่ระหว่าง 0.25 – 0.30 ม. สำหรับการใช้งานพักอาศัยทั่วไป ดังนั้น เมื่อใช้งานจริงไม้ดังกล่าวก็หักลง ลองนึกภาพดูว่าหากเป็นพื้นระเบียงที่อยู่ในที่สูง หากพื้นแตกหักลงมาเมื่อมีคนเดินอยู่ด้านบนจะก่อให้เกิดอันตรายมากแค่ไหน

สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้ไม้เทียมแทนไม้จริง

1.ตรวจสอบข้อกำหนด, ข้อแนะนำการใช้งานของไม้เทียม โดยเฉพาะความสามารถในการรับน้ำหนัก, ระยะพาดของตง และควรกำหนดในแบบให้ชัดเจน ตลอดจนกำชับผู้รับเหมาให้เข้าใจตรงกัน
2.หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้ไม้พื้นดังกล่าวในที่สูง เพื่อป้องกันอันตรายจากปัญหาพื้นหักแตกออกมา ควรเตรียมการเสริมตะแกรงเหล็กด้านล่างพื้น เพื่อป้องกันการตกจากที่สูง
3.ไม่ควรนำไม้เทียมมาใช้เป็นกันตก หรือราวระเบียง เนื่องจากหากมีการพิงหรือนั่งบนราว อาจจะแตกพังลงมาได้
หากต้องการใช้ไม้เทียม ควรนำมาใช้ในพื้นที่ระดับไม่สูงจากพื้นมากนัก เช่น พื้นทางเดินรอบบ้าน พื้นศาลาที่มีโครงสร้างพื้นรับอยู่ด้านล่าง
4.ควรจำไว้ว่าไม้เทียมมีหน้าตาคล้ายไม้จริง แต่มันไม่เหมือนไม้จริง ทั้งคุณสมบัติในการรับแรง, ผิวสัมผัส รวมถึงกรรมวิธีในการติดตั้ง

CR.คลีนิกช่าง

เว็บไซต์ Homemall ใช้คุกกี้เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดี การคลิกปุ่มยอมรับ หรือ ใช้งานเว็บไซต์ของเราถือเป็นการยอมรับ นโยบายการใช้งานคุกกี้ นโยบายการใช้งานคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า
error: Content is protected !!